เทคนิคจัดห้องให้ดูกว้าง ไม่ใช่แค่จัดวาง แต่ต้องในระยะที่ลงตัว

          การเลือกที่อยู่อาศัยของเราในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จากเดิมที่เน้นอยู่ที่สบายตรงไหนก็ได้ ขอให้เดินทางสะดวก ได้เปลี่ยนมาอยู่อาศัยในเมืองกันมากขึ้นเพื่อประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยเลือกอยู่คอนโดมิเนียมกันมากขึ้น แต่คอนโดในเมืองหรือคอนโดที่มีความสะดวกสบายนั้น พื้นที่ใช้สอยก็ค่อนข้างจำกัด หากมีพื้นที่มาก ๆ ห้องกว้าง ๆ ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่แพงมากขึ้นตามกันไป แต่การอยู่อาศัยในห้องเล็ก ๆ แคบ ๆ ไปนาน ๆ อาจทำให้รู้สึกอึดอัดได้เช่นกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาซะทีเดียว หากเราเป็นคนรู้จักตกแต่งปรับเปลี่ยน และใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ การจัดห้องให้ดูกว้างขวางน่าอยู่ให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป ทำให้เราได้ห้องใหม่ที่น่าอยู่มากขึ้นกว่าเก่าอย่างแน่นอน แต่จะทำอย่างไรได้บ้างนั้น วันนี้เราได้นำทริคดี ๆ มาฝากกันกับเทคนิคจัดห้องให้ดูกว้าง ไม่ใช่แค่จัดวาง แต่ต้องในระยะที่ลงตัว

แนะ 7 เคล็ดลับจัดห้องให้ดูกว้างต้องทำอย่างไร

ห้องพักอาศัยในคอนโดส่วนใหญ่นั้นมีพื้นที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นห้องแบบ Studio, 1 ห้องนอน หรือ 2 ห้องนอนก็ตาม เพราะต้องถูกแบ่งเป็นสัดส่วนเพื่อการใช้งาน ข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ก็มีแต่จะซื้อเข้ามาจนแทบไม่มีที่จะเก็บ วันนี้เราจะมาทำให้พื้นที่เล็ก ๆ ของเราน่าอยู่โดยการจัดห้องให้ดูกว้างมากขึ้น จัดห้องนอนขนาดเล็กของเยอะให้ดูดีเป็นระเบียบมากขึ้น ด้วยทริคตกแต่งเด็ด ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกห้อง เทคนิคดี ๆ ที่ว่านั้น มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

1. เลือกใช้โทนสี เพิ่มพื้นที่ห้องได้

พื้นที่สว่าง ช่วยให้รู้สึกสบายตามากขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหากเราเลือกใช้โทนสีอ่อน ๆ ที่ช่วยสะท้อนแสงสว่างได้ดี ดูสะอาดตา เช่น สีขาว สีครีม สีชมพู สีฟ้า หรือสีพาสเทล สีโทนเย็นจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย ปลอดโปร่ง โดยเฉพาะพื้นที่ห้องแคบ ๆ หากใช้เฉดสีอ่อนในการตกแต่ง หรือคุมโทนสีห้องให้ไปในโทนใกล้เคียงกัน ช่วยให้จัดห้องให้ดูกว้างขึ้นมากกว่าเดิม

 

 

โทนสีขาวครีม (Cloud White)

เป็นโทนสีที่ใกล้กับสีขาวมากที่สุด นอกจากความสบายตาแล้ว สีขาวครีมยังให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง สบายตา ทำให้ผนังห้องของเราดูกว้างขึ้น ส่วนใหญ่โทนสีขาวครีมจะนิยมนำไปใช้ทาสีห้องนอนและห้องนั่งเล่น

 

โทนสีฟ้า (Sweet Dreams)

อีก 1 โทนสียอดนิยมไม่แพ้โทนสีขาวครีม เพราะสีฟ้าเป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล เป็นอิสระ ผ่อนคลาย สงบ และความรู้สึกที่ปลอดโปร่งโล่งกว้าง อีกทั้งยังเป็นสีที่ช่วยสร้างจินตนาการได้เป็นอย่างดี โทนสีฟ้าเหมาะจะใช้ตกแต่งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน และห้องน้ำ

 

โทนสีเทาอ่อน (Swirling Smoke)

สีเทามีหลายเฉด แต่สีเทาอ่อน หรือสีควันบุหรี่ จะเป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตามากที่สุด การตกแต่งผนังห้องด้วยสีเทาจะให้ความลึก เพิ่มมิติให้กับห้องให้ดูกว้างมากขึ้น สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำเช่นกัน

 

โทนสีฟ้าอมเทา (Skylight)

ความรู้สึกสดใส สว่าง จะช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลายได้ดี นอกจากนั้นโทนสีฟ้าอมเทายังให้ความรู้สึกสดชื่น และมีความทันสมัยแนวโมเดิร์น ช่วยให้ห้องดูโล่งกว้างขึ้น เป็นโทนสีที่เหมาะจะใช้ตกแต่งห้องนอนและห้องนั่นเล่น

 

. . . . . . . . . .

 

2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้หลากหลาย

เฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งห้องนั้น มักซื้อเข้าบ้านมาเรื่อย ๆ มารู้ตัวอีกทีก็แทบจะล้นห้องแล้ว จะขยับปรับเปลี่ยนก็ลำบาก รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เกินไป เพราะตอนเลือกซื้ออาจจะเน้นที่ความสบาย แต่เมื่อนำมาตั้งในห้องของเราจริง ๆ อาจจะทำให้ห้องดูเล็กลงไปมากกว่าเดิม การเลือกใช้และจัดวางตำแหน่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็มีส่วนสำคัญในการจัดห้องให้ดูกว้าง

 

เฟอร์นิเจอร์ขนาดพอเหมาะ จัดชิดมุม

ห้องที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก หากเพิ่มเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เข้าไปก็ยิ่งทำให้ห้องดูแคบ และน่าอึดอัด การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอเหมาะกับพื้นที่ใช้งาน เช่น  Bedside Table หรือ C-Table หรือโต๊ะแบบชิดข้างฝาเลือกดีไซน์แบบที่มี Shape หรือมีขาตั้งโปร่ง ๆ รวมไปถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ติดผนัง มุมห้อง หรือใช้เฟอร์นิเจอร์คละขนาดกัน จะช่วยจัดห้องให้ดูกว้างสบายตามากขึ้น

 

เฟอร์นิเจอร์เคลื่อนย้ายง่าย

การมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นอาจจะเป็นเรื่องดี ช่วยให้ห้องไม่รก ดูสะอาดตา แต่สำหรับหลายคนอาจจะต้องมีเฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของเครื่องใช้ไว้เพื่อใช้งานจริง ๆ หรืออาจจะเป็นคนชอบสะสม ชอบซื้อ วิธีจัดห้องให้ดูกว้างง่าย ๆ ก็คือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย เช่น โต๊ะล้อเลื่อน โต๊ะญี่ปุ่น เก้าอี้พับ ฯลฯ เพราะจะช่วยให้สะดวกในการจัดระเบียบห้อง และไม่ทำให้ห้องคับแคบ

 

 

เฟอร์นิเจอร์ Built-In

การบิวท์-อิน เฟอร์นิเจอร์เป็นทางเลือกในการจัดห้องให้ดูกว้างที่ดีกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว สำหรับห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย เช่น การบิวท์-อินโต๊ะและตู้หนังสือติดริมหน้าต่าง จะช่วยให้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับห้องได้มากขึ้น เฟอร์นิเจอร์บิวท์-อิน ช่วยให้เราเก็บของกระจุกกระจิกเป็นระเบียบ ช่วยซ่อนของใช้ชิ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นสัดเป็นส่วนได้ดีขึ้น เช่น ตู้เก็บของซ่อนหลังผนัง ตู้เก็บของใต้เตียง

 

เฟอร์นิเจอร์ Multifunction

เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้หลากหลาย เป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ ในการจัดห้องให้ดูกว้าง เพราะทำให้เราจัดการกับพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวมากที่สุด เช่น เตียงนอนแบบพับเก็บเป็นโซฟาได้  โซฟาที่มีลิ้นชักเก็บของไว้ใต้เบาะ หรือโต๊ะอาหารแบบดึงออกกางได้เมื่อใช้งาน ฯลฯ ไอเทมต่าง ๆ เหล่านี้สามารถตอบโจทย์ห้องพื้นที่เล็ก ๆ ช่วยให้เราจัดห้องให้ดูกว้างได้อย่างง่ายดาย เฟอร์นิเจอร์ Multifunction ช่วยประหยัดพื้นที่ ไม่ต้องมีหลายชิ้น เหลือพื้นที่ ทั้งคุ้มค่าและประหยัดมาก ๆ

 

. . . . . . . . . .

 

3. วางผังดี ได้ Space พื้นที่เพิ่มมากขึ้น

การจัดห้องให้ดูกว้างสำหรับห้องที่มีพื้นที่ไม่กว้างมาก ต้องใส่ใจเรื่อง Layout เพราะการวางข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ หากวางผิดตำแหน่งก็จะเปลืองพื้นที่ใช้สอยโดยใช่เหตุ เช่น ในห้องนอน เตียงนอนจะเป็น Layout ที่สำคัญที่สุด หากเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตขึ้นไป ควรวางไว้กลางห้อง โดยให้หัวเตียงชิดผนัง เหลือพื้นที่เป็นตัว U รอบ ๆ หากเป็นเตียงขนาดกลางลงไป ควรวางให้ชิดมุมห้องด้านใดด้านหนึ่ง แต่ไม่ควรไว้ด้านเดียวกับประตู ตำแหน่งเตียงนอนที่สามารถมองได้รอบห้อง จะทำให้รู้สึกสบาย หรือการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ เป็นแนวตั้ง ก็จะช่วยเพิ่มมุมมองให้กว้างขึ้น การจัดห้องให้ดูกว้างโดยการจัดสิ่งของเข้ามุมหรือชิดผนัง จะทำให้เราได้ Space ใช้งานเพิ่มขึ้น

 

 

. . . . . . . . . .

 

4. ติดกระจก ช่วยเพิ่มมิติและมุมมอง

การติดกระจกจะช่วยเพิ่มมิติ ช่วยจัดห้องให้ดูกว้างมากขึ้น ช่วยให้พื้นที่ห้องแคบ ๆ หรือห้องสี่เหลี่ยม ดูไม่อึดอัดและสบายตา แสงและเงาของกระจกจะช่วยเพิ่มมิติให้แปลกตาและน่าสนใจ ซึ่งกระจกนั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่กระจกเงาเพียงอย่างเดียว เพราะกระจกใสก็ช่วยทำให้ห้องของเรากว้างขึ้นได้ด้วยเช่นกัน แต่จะให้เอากระจกมาวางพิงผนังหรือแขวนเฉย ๆ ก็อาจจะกลายเป็นเกะกะรกห้องได้ เรามาดูวิธีติดกระจกที่น่าสนใจกันดีกว่า

 

การติดกระจกสไตล์ Mirror Wall

การติดกระจกแนวนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด จะช่วยจัดห้องให้ดูกว้างมากขึ้น เช่น การติดกระจกแผ่นใหญ่เต็มบาน กับผนังเรียบ ๆ หากเป็นกระจกไร้รอยต่อจะดีมากที่สุด แต่หากต้องต่อแผ่นกระจก ควรให้มีระยะความกว้างประมาณ 1 – 1.4 เมตร เราอาจเลือกใช้กระจกเงาแบบใส หรือกระจกเงาสี Bright Gold จะยิ่งช่วยให้ห้องกว้างมากขึ้น

 

การติดกระจกสไตล์ Grid Wall

การติดตั้งกระจกแบบ Mirror Wall อาจดูเรียบจนเกินไป แม้ห้องจะดูกว้างขึ้น แต่อาจจะขาดมิติความลึก และขาดมุมมองที่โดดเด่น เราก็สามารถเลือกติดกระจกแนว Grid โดยเรียงกระจกต่อกันเป็นแผ่น ๆ แทน จะเลือกใช้กระจกเงาสีเดียวกัน หรือกระจกสลับสี กระจกพิงค์โกล์ด Pink Gold เพื่อให้ผนังไม่เรียบเกินไปก็ได้ เลือกสีและขนาดของกระจกเรียงต่อกันได้ตามความชอบ แต่ไม่ควรใช้ขนาดเล็กเกินไป ควรเลือกใช้ขนาดกระจกประมาณ 20 เซนติเมตรขึ้นไป

 

 

การติดกระจกสไตล์ Frame Wall

การติดกระจกสไตล์นี้ เหมือนการตกแต่งผนังด้วยกรอบรูปทั่ว ๆ ไป ช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องดูลึกและสวยงามมากยิ่งขึ้น

หากใช้กรอบสเตนเลสเงาวาว หรือกรอบเมทัลลิค ก็จะยิ่งช่วยจัดห้องให้ดูกว้างขึ้น และดู Modern Luxury ด้วยกระจกเงา แต่มีข้อควรระวังคือไม่ควรให้กรอบหนาและใหญ่จนเกินไป เพราะกรอบกระจกจะทำให้ห้องเล็ก ๆ ดูอึดอัด และอาจเลือกกระจกรูปได้หลายรูปทรง เช่น ทรงกลม โค้ง หรือแบบมุมมน

 

. . . . . . . . . .

 

5. จัดโซนต่างๆ ในห้องให้มีสัดส่วนชัดเจน

ถึงแม้ห้องเราจะมีขนาดพื้นที่ไม่มาก แต่หากเราจัดหรือแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ก็จะเหมือนเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องได้เช่นเดียวกัน การใช้ฉากกั้นห้องเป็นการจัดห้องให้ดูกว้างในพื้นที่ที่จำกัด โดยเราอาจจะใช้ฉากกั้นระหว่างเตียงนอนกับพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งเป็นวิธีจัดห้องนอนให้น่าอยู่มากขึ้น หรือกั้นโต๊ะทำงานออกจากพื้นที่นั่งเล่น หรือหากเป็นห้อง Studio ก็อาจจะใช้กั้นพื้นที่ส่วนที่เป็นครัว ออกจากพื้นที่ใช้งานทั่วไป อาจจะใช้ฉากผ้า หรือฉากกั้นสมัยใหม่ที่มีการครีเอทรูปแบบออกมาสวยงามใช้กั้นพื้นที่ และตกแต่งบ้านไปในตัว หรืออีกวิธีที่สวยงามและเป็นที่นิยม คือติดตั้งฉากกั้นกระจก แยกพื้นที่ห้อง ใช้ได้ทั้งกระจกเงาและกระจกใส กระจกจะช่วยสะท้อนพื้นที่หรือส่วนต่าง ๆ ในห้องของเราให้ห้องดูกว้างขึ้น และขยายใหญ่มากขึ้น ช่วยให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด

 

 

. . . . . . . . . .

 

6. ผนังเก็บของแนวตั้ง เติมฟังก์ชั่นสุดเก๋ไก๋

ไม่ว่าจะเป็นห้องขนาดกว้าง หรือห้องที่มีพื้นที่ใช้งานน้อยก็ตาม ผนังห้องเป็นพื้นที่ที่ถูกใช้งานน้อยมาก ส่วนใหญ่จะใช้แขวนนาฬิกากับติดกรอบรูป ทั้ง ๆ ที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากผนัง เพื่อช่วยจัดห้องให้ดูกว้างได้ง่าย ๆ ด้วยการทำชั้นหรือตู้เก็บของใช้ไว้บนฝาผนัง เรียกว่าเป็นอีกไอเดียที่ได้ผล และกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เหมาะกับใช้เก็บของจุกจิก ของใช้ชิ้นเล็ก ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง แถมยังหยิบใช้งานง่าย

 

 

แผ่นบอร์ดติดผนัง

จัดห้องให้ดูกว้างโดยเปลี่ยนผนังโล่ง ๆ ให้เป็นพื้นที่จัดเก็บของง่าย ๆ ด้วยการยิงแผ่นไม้ติดผนัง หรือใช้ผนังแผ่นไม้ก๊อกเก๋ ๆ ก็ได้เช่นกัน เพื่อที่เราจะสามารถตอกหมุดสำหรับแขวนสิ่งของต่าง ๆ เก็บให้เข้าที่และเป็นสัดส่วน การเก็บของบนผนังช่วยให้พื้นบ้านโล่งมากขึ้น ลดการใช้งานตู้เก็บของลงได้มาก ทำให้มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มมากขึ้น หรืออาจจะใช่กระดานรู (Peg Board) ยึดผนังห้อยอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ก็ได้เหมือนกัน

 

ลังไม้ติดผนัง

การที่ต้องใช้พื้นสำหรับตู้เก็บของและตั้งอยู่บนพื้นนั้น มีส่วนทำให้ห้องคับแคบและอึดอัดเป็นอย่างมาก เพราะบางครั้งอาจจะมีเพียงของใช้ชิ้นเล็ก ๆ แต่ต้องใช้ตู้เก็บของที่มีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้เปลืองพื้นที่ไปเปล่า ๆ เราสามารถจัดห้องให้ดูกว้างโดยใช้ชั้นยิงติดผนัง หรือครีเอทลังไม้พาเลทมายึดติดกับผนัง เพื่อใส่ของที่มีน้ำหนักเบาได้ง่าย ๆ หรือเรียงต่อ ๆ กันจากพื้นขึ้นไป ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ ที่สำคัญยังประหยัดงบประมาณได้มากจริง ๆ

 

 

. . . . . . . . . .

 

7. เพิ่มแสงสว่างสดใสให้กับห้อง

บางครั้งที่ห้องของเราดูคับแคบ อึดอัด อาจจะเป็นเพราะมีแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ ทั้งแสงสว่างจากธรรมชาติ และแสงสว่างจากแสงไฟภายในบ้าน ความสว่างนั้นจะช่วยทำให้บ้านกว้างขึ้นได้ เป็นหลักการเดียวกันกับการใช้สีโทนอ่อนแต่งห้องนั่นเอง เพราะยิ่งห้องมืดห้องก็จะดูแคบและทึบ ส่วนไหนมืดเราก็สามารถติดไฟเพิ่ม แต่ไม่จำเป็นต้องติดไฟเพิ่มทั้งบ้าน ให้เลือกติดเฉพาะจุดที่มืดก็พอ การเพิ่มแสงสว่างให้กับห้อง เป็นอีกวิธีในการจัดห้องให้ดูกว้างด้วยเช่นกัน

 

โคมไฟเพดานช่วยได้

โคมไฟเพดาน ทั้งแบบรางและแบบแขวน ช่วยเราจัดห้องให้ดูกว้างมากขึ้นได้ หรืออาจจะเลือกใช้ไฟเพดานเฉพาะจุดเพิ่มแสงสว่างในพื้นที่แคบ ๆ หรือแสงน้อย หากใช้หลายดวงควรติดตั้งให้หลอดไฟเรียงตัวกัน เพื่อเพิ่มจุดนำสายตา และควรเลือกติดตั้งหลอดไฟใกล้กับผนัง หรือเพดานที่เป็นสีขาว หรือสีโทนอ่อน เพื่อให้เกิดการสะท้อนแสง และให้มีแสงตกกระทบ แสงที่ได้จะส่องสว่างนุ่มนวลแบบสบายตา แล้วช่วยทำให้ห้องของเรากว้างมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังดูสวยงามทันสมัยมากขึ้นด้วย

 

 

ปรับทิศทางของแสง

โคมไฟที่เราใช้งานภายในห้องนั้น ไม่ว่าจะเป็นไฟเพดาน ไฟตั้งพื้น หรือตั้งโต๊ะ มีหลักสำคัญง่าย ๆ ในเบื้องต้นเลยก็คือ ทิศทางของแสงต้องเหมาะสมลงตัว หากห้องของเรามีทิศทางของแสงที่ดี ก็จะทำให้ห้องที่คับแคบกลายเป็นห้องที่มีมิติ กว้างมากขึ้น เช่น การใช้โคมไฟตั้งพื้นช่วยการกระจายแสงไปที่ผนังห้อง หรือสะท้อนผนังขึ้นไปยังเพดาน เพื่อให้เกิดแสงตกกระทบลงมาที่พื้นอีกที ทิศทางของแสงจะช่วยจัดห้องให้ดูกว้างมากยิ่งขึ้น สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ ไม่ควรติดตั้งโคมไฟบริเวณกลางห้อง เพราะจะทำให้ห้องแคบ ดูไม่ปลอดโปร่งสบายตา การติดตั้งไฟตามจุดหรือผนังห้อง ให้สะท้อนฝ้าและเพดาน จะช่วยให้ห้องดูโล่งโปร่งและกว้างมากกว่า

 

ไม่ตั้งสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์บังทิศทางแสง

บางครั้งเราสังเกตว่าด้านนอกมีแสงจ้า แต่ทำไมภายในห้องของเราดูทึม ๆ แสงจากด้านนอกผ่านเข้ามาได้น้อยมาก อาจจะเกิดจากการวางตำแหน่งตู้เสื้อผ้า หรือชั้นวางของบังทิศทางแสง หรืออาจจะติดผ้าม่านที่หนาทึบเกินไป การใช้ผ้าม่านลายแถบ หรือลายสก็อต จะช่วยให้ห้องนอนดูกว้างขึ้นมากกว่า ไม่ควรแขวนอะไรไว้ที่หน้าต่างมากเกินไป ทางที่ดีควรปล่อยให้หน้าต่างโล่ง อย่าให้มีอะไรมาบังจะดีที่สุด ปล่อยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง จะทำให้ห้องดูโปร่งและโล่งมากขึ้น